| บทที่
            2 (ต่อ) เครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย (SchoolNet Thailand) เรื่องที่สำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งของการใช้เครือข่ายนี้
            ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย
            คือ โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์โรงเรียนมัธยมศึกษา
            (SchoolNet)
            ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งในหลายโครงการด้าน
 เทคโนโลยีสารสนเทศ
            ที่เกิดขึ้นตามพระราชดำริของ
            สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
            สยามบรมราชกุมารี
            กล่าวคือ
            ศูนย์เทคโนโลยีอีเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
            ได้นำแนวพระราชดำริมาดำเนินการ
 โดยร่วมมือกับหน่วยงานและสถาบันการศึกษาในสังกัดกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการ
 โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
            ซึ่งศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(เนคเทค)
            ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2538
            ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นปีแห่งเทคโนโลยี
 สารสนเทศไทย
            โครงการนี้เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อโรงเรียนมัธยมในประเทศไทยเข้าสู่
 อินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยยกระดับการศึกษาของเยาวชนไทย
            ถือเป็นการ
 ตอบสนองนโยบายของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
            ฉบับที่ 8
            ที่มุ่งเน้นการพัฒนา
 ทรัพยากรมนุษย์
            รวมทั้งเป็นการดำเนินการตามนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ (ไอที-2000)
 โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพของการศึกษาของเยาวชนไทย
            และลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษา
            โดยเริ่มต้นที่ระดับมัธยมศึกษา
            โดยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 หรืออินเทอร์เน็ตในการศึกษาและเรียนรู้
            นับเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรก
 ในภูมิภาคเอเซีย
            ที่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์โรงเรียน
            ที่เปิดโอกาสให้โรงเรียนมัธยมทั่วประเทศสามารถ
 เข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
            ในอัตราค่าโทรศัพท์ครั้งละ 3 บาททั่วประเทศ
 ทั้งนี้
            ด้วยความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายหน่วยงาน
            ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดำเนินการเพื่อตอบสนอง
 รัฐธรรมนูญมาตรา
            78 (ที่กล่าวว่า รัฐต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นพึ่งตนเอง
            และตัดสินใจในกิจการ
 ท้องถิ่นได้เอง
            พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
            และระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
            ตลอดทั้งโครงสร้าง
 พื้นฐานสารสนเทศในท้องถิ่นให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกันทั่วประเทศ
)
            โดยส่วนที่ศูนย์เทคโนโลยี
 อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
            (เนคเทค)
            ดำเนินการจะเป็นการตั้งต้นให้กับประเทศไทย
            เพื่อให้มีโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศในท้องถิ่นขั้นต่ำระดับหนึ่งเท่านั้น
            ซึ่งเมื่อผ่านระบบนี้ไปแล้ว
 การขยายตัวจะเกิดขึ้นได้ง่าย
            เพราะผู้ใช้ระบบมีความพร้อม
            เนื่องจากได้เห็นความสำคัญและประโยชน์
 ของการใช้อินเทอร์เน็ต
            และพร้อมที่จะจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ให้บริการภาคเอกชน
            เพื่อกระจายให้ผู้ใช้อื่น
 ในโรงเรียนได้มากขึ้น
            จึงนับว่าเป็นการสร้างตลาดให้แก่ภาคเอกชน
            และกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
 นอกจากนี้โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการร่วมงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา
            6 รอบในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
 วัตถุประสงค์ของโครงการ นอกเหนือจากการเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา
            78 แล้วโครงการยังมีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการศึกษาคือ
  1.
            เพื่อให้โรงเรียนมัธยมทั่วประเทศได้มีและได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการศึกษาและเรียนรู้
 2.
            เพื่อเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนเอกสาร
            สื่อการสอน
            ดัชนีห้องสมุดระหว่างโรงเรียนด้วยกันเองและโรงเรียนกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
 3.
            เพื่อให้ผู้ใช้ (ทั้งครูและนักเรียน)
            ในระดับโรงเรียนได้เข้าถึงศูนย์ข้อมูลต่างๆ
            และห้องสมุดในอินเทอร์เน็ต
 4. เพื่อให้ครู
            อาจารย์
            หรือนักเรียนในโรงเรียนสามารถติดต่อกับครู
            อาจารย์หรือนักเรียนในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาอื่นๆ
            ในระดับโรงเรียนหรือสูงกว่าทั้งในและต่างประเทศ
 เป้าหมายของโครงการ 1.
            ขยายให้ครอบคลุมโรงเรียนทั่วประเทศสามารถต่อเข้าเครือข่ายแบบ
            dial-up ในอัตราค่าโทรศัพท์ท้องถิ่น
            (3 บาท) เท่ากันทั่วประเทศ
            ปี 2542 โรงเรียนมัธยม 2,500
            โรงเรียนปี 2543 โรงเรียนมัธยม
 ประถมและอาชีวะจำนวน 5,000
            โรงเรียน
            โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ
 คอมพิวเตอร์แห่งชาติ,องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
            การสื่อสารแห่งประเทศไทยและกระทรวงศึกษาธิการ
 2.
            จัดสรรบัญชีผู้ใช้งานแก่โรงเรียนร่วมโครงการ
            ปี 2542
            จัดสรรบัญชีให้โรงเรียนละไม่เกิน
            3 บัญชี
            แต่ละบัญชีมีชั่วโมงการใช้งานไม่เกิน
            40 ชั่วโมงต่อเดือน
            และเนื้อที่เก็บข้อมูลโรงเรียนละไม่เกิน 7 เมกะไบต์ ปี 2543
            จัดสรรบัญชีให้โรงเรียนละไม่เกิน
            5 บัญชี
            แต่ละบัญชีมีชั่วโมงการใช้งานไม่เกิน
            80 ชั่วโมงต่อเดือน
            และเนื้อที่เก็บข้อมูลโรงเรียนละไม่เกิน
            8 เมกะไบต์
            โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ
 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ,
            กระทรวงศึกษาธิการ
 3.
            จัดอบรมครูของโรงเรียนร่วมโครงการทั้งหมดในหลักสูตรการใช้อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
            และการเขียนเว็บเพจเพื่อให้โรงเรียนสามารถใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต
            และจัดทำข้อมูลเผยแพร่ได้
            ปี 2542 จัดอบรม
 ครูของโรงเรียน
            2,500 โรงเรียนๆ ละ 2 คนปี 2543
            จัดอบรมครูของโรงเรียน
            5,000 โรงเรียนๆ ละ 2 คน
            โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือสำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ
            กระทรวงศึกษาธิการ
 4.จัดทำต้นแบบของเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้เพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้สำหรับนักเรียน
            และครูปี 2542
            จัดทำต้นแบบเนื้อหาอย่างน้อย
            7 หมวดวิชา เป็นจำนวน ไม่น้อยกว่า
            1,000
 เรื่อง
            โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)
 รวมทั้งกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ
 5.
            จัดทำสื่อเพื่อพัฒนาครู 1
            ชุด ประกอบด้วยหนังสือ
            วีดิทัศน์ และ
            ซีดีรอมเพื่อให้ครูเข้าใจถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนและการพัฒนาศักยภาพของตน
            โดยมีหน่วยงาน
 ที่รับผิดชอบคือศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ,กรมวิชาการ
            กระทรวงศึกษาธิการ
 การดำเนินงาน พ.ศ. 2538
            ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
            (เนคเทค) ได้ดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตโรงเรียนมัธยมโดยเชื่อมต่อโรงเรียนมัธยมศึกษา
            10
            โรงเรียนเข้ากับเครือข่ายไทยสารที่ได้
 ดำเนินการอยู่แล้ว
  พ.ศ. 2539
            เนคเทคได้ประสานงานกับภาคเอกชนที่แสดงความจำนงสนับสนุนอุปกรณ์ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์และจัดอบรมให้แก่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ
            จัดตั้งเครื่องให้บริการ
            k12.nectec.or.th
 (เรียกสั้นๆ
            ว่าเครื่อง k12)
            โดยจัดสรรบัญชีผู้ใช้โรงเรียนละ
            2 บัญชี พื้นที่เผยแพร่ข้อมูลของโรงเรียนจำนวน
 5 เมกะไบต์
            และเลขหมายโทรศัพท์จำนวน
            39 เลขหมาย
            พร้อมทั้งจัดอบรมหลักสูตรการใช้อินเทอร์เน็ต
 เบื้องต้นและการสร้างเว็บเพจแก่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ
            เพื่อให้โรงเรียนสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
 แบบผู้ใช้ส่วนบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
 พ.ศ. 2540
            ได้จัดทำต้นแบบการศึกษารูปแบบใหม่
            Classroom 2000สำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษาเพื่อให้โรงเรียนใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาเนื้อหาเผยแพร่ในเครือข่ายให้โรงเรียนอื่นได้ใช้ประโยชน์
 และเพื่อการแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนอื่นๆ
            ที่สนใจ จัดกิจกรรม
            สัมมนาและอบรมให้ความรู้ความเข้าใจเรื่อง
 อินเทอร์เน็ตแก่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเช่นสัมมนาอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริหารโรงเรียนทั่วทุกภาค
 ในประเทศไทย
            การอบรมหลักสูตรอินเทอร์เน็ตเบื้องต้นการอบรมหลักสูตรอินเทอร์เน็ตระดับกลาง
            กิจกรรม
 Seagate Internet Training Camp
            เป็นต้น ทั้งยังได้พัฒนา
            Linux-SIS (Linux SchoolNet Internet
 Server)
            ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์สำหรับโรงเรียนเพื่อติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
            (PC) ให้ทำหน้าที่
 เป็นเครื่องให้บริการอินเทอร์เน็ตซึ่งมีเครื่องมือบริหารเครือข่าย (Web Admin
            Tool)
            ช่วยให้ครูผู้ดูแลระบบ
 สามารถบริหารเครือข่ายโดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้คำสั่ง
            ถือเป็นการสนับสนุนให้โรงเรียนเชื่อมต่อ
 เครือข่ายภายในโรงเรียนเข้าสู่อินเทอร์เน็ตแบบโหนดในราคาถูกและมีประสิทธิภาพ
  นอกจากนี้
            ยังได้เริ่มโครงการฯ
            ในมิติใหม่ (SchoolNet@1509)
            โดยโครงการฯ ได้รับพระมหากรุณา- ธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
            สยามบรมราชกุมารี
            ให้ใช้ระบบเครือข่ายกาญจนาภิเษก
            ซึ่งมีศูนย์
 รับการเชื่อมต่อออนไลน์ทั่วประเทศ
            เพื่อใช้งานเชื่อมต่อเข้าเครือข่ายเพื่อโรงเรียนไทยโดยการหมุนเลขหมาย
 1509 โดยเริ่มตั้งแต่ 1
            กุมภาพันธ์ 2541
            และในเวลาต่อมา
            กระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้องค์การ
 โทรศัพท์แห่งประเทศไทย
            (ทศท.) และการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.)
            ร่วมมือกับเนคเทคหาทางจัดระบบ
 อินเทอร์เน็ตในราคาถูก
            ให้แก่โรงเรียนต่างๆ
            ทั่วประเทศอย่างทัดเทียมและทั่วถึงโดยเริ่มต้นที่โรงเรียน
 มัธยมศึกษาก่อน
 พ.ศ. 2541
            ผลที่ได้รับจากแนวนโยบายของกระทรวงคมนาคมนี้
            คือการร่วมมือกันระหว่างโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทยกับเครือข่ายกาญจนาภิเษก
            กลายเป็นระบบบริการเครือข่าย
 คอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
            ที่สามารถเชื่อมต่อออนไลน์ได้ทั่วประเทศผ่านเลขหมายพระราชทาน 1509
 โดยผู้ใช้เสียค่าใช้จ่ายเพียงค่าโทรศัพท์ครั้งละ
            3 บาท
            ทั้งนี้อินเทอร์เน็ตทางไกลภายในประเทศ
            ได้รับการ
 สนับสนุนโดยองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
            ส่วนอินเทอร์เน็ตทางไกลต่างประเทศนั้น
            สนับสนุนโดย
 การสื่อสารแห่งประเทศไทยและเนคเทค
            ส่วนระบบอุปกรณ์เครือข่ายทั้งหมดเป็นของเครือข่ายกาญจนาภิเษก
 และเครือข่ายไทยสารรวมกัน
            จึงจัดได้ว่าเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาที่เปิดให้กับโรงเรียนมัธยม
 ศึกษาทั่วประเทศได้เข้าถึง
            โดยใช้หลักการความทัดเทียมและความทั่วถึง
            กล่าวคือ
            โรงเรียนในต่างจังหวัด
 ทุกจังหวัดจะมีโอกาสในการเข้าถึงเครือข่ายเท่ากับโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร
  สำหรับการดำเนินการนั้นคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ
            ได้จัดตั้งคณะทำงานประสาน งานการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาขึ้น
            โดยให้เป็นความร่วมมือระหว่าง
            3 กระทรวงได้แก่กระทรวง
 คมนาคม กระทรวงศึกษาธิการฯ
            และกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ
            โดยคณะทำงานมีหน้าที่ในการจัดทำแนวทาง
 ในความร่วมมือ
            และการส่งเสริมการพัฒนาโครงการฯ
            ทั้งนี้ได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อให้รับผิดชอบในส่วนที่
 เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงเครือข่ายฯ
            การจัดเตรียมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ทางการศึกษา
            และการฝึกอบรม
 บุคลากร
 ส่วนโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการจัดสรรบัญชีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนบุคคล
            โรงเรียนละไม่เกิน 3
            บัญชี
            มีจำนวนชั่วโมงการใช้งานไม่เกินเดือนละ
            40 ชั่วโมง
            และเนื้อที่เก็บข้อมูลไม่เกินโรงเรียน
 ละ
            7 เมกะไบต์
  ผลการดำเนินงาน  เดือนตุลาคม พ.ศ.2541
            มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน
            446 โรงเรียนทั่วประเทศ
            ซึ่งได้รับบัญชี ผู้ใช้แบบ
            dial-up จำนวน 882 บัญชีโรงเรียนที่มีศักยภาพเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบโหนดแล้วผ่านเครือข่าย
 ไทยสารประมาณ
            40 โรงเรียน
            และโรงเรียนที่เผยแพร่ข้อมูลที่มีประโยชน์ด้านการศึกษาจำนวน 94
            โรงเรียน
 ทั่วประเทศ
 แผนการดำเนินงานปี
            2542-2543 1.
            ขยายขอบเขตของโครงการสู่โรงเรียนมัธยมทั่วประเทศ
            และโรงเรียนประถม/อาชีวะที่มีความพร้อมจำนวน ทั้งสิ้น
            5,000 โรงเรียน
 2.
            จัดสรรบัญชีผู้ใช้ส่วนบุคคล
            (Internet Account)
            โรงเรียนละไม่เกิน 5
            บัญชี โดยมีชั่วโมงการใช้งานได้ไม่เกินเดือนละ
            80
            ชั่วโมงและเนื้อที่เก็บข้อมูลของโรงเรียนไม่เกิน
            8 เมกะไบต์สำหรับโรงเรียนใน
 โครงการ
 3.
            จัดสัมมนาและอบรมให้ความรู้ด้านอินเทอร์เน็ตในหลักสูตรการใช้อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
            และการเขียนเว็บเพจ
            ด้วยภาษา HTML แก่ครู
            อาจารย์ในโรงเรียนที่ร่วมโครงการ
 4.
            จัดทำสื่อในรูปของหนังสือ
            วีดิทัศน์ และ
            ซีดีรอมเพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้ความเข้าใจถึงความจำเป็นที่ห้องเรียน
            โรงเรียน
            และกระบวนการเรียนรู้จะต้องปรับเข้าสู่ยุคใหม่
            ซึ่งเทคโนโลยีการสื่อสารและมัลติมีเดีย
 จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง
 5.
            จัดทำต้นแบบเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้สำหรับโครงการ
            เพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้สำหรับนักเรียนและครูอาจารย์
 6.
            ส่งเสริมการผลิตสื่อการเรียนการสอน
            การพัฒนาเนื้อหาข้อมูลของโรงเรียนให้เกิดขึ้นมากๆ
            และมีคุณภาพเพื่อนำมาเผยแพร่ในเครือข่ายให้โรงเรียนได้ใช้ประโยชน์และแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ซึ่งกันและกัน
 7.
            ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมต่างๆ
            ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตภายในโรงเรียน 8.
            ส่งเสริมให้ครูและนักเรียนไทยได้ร่วมทำกิจกรรมหรือโครงการกับครูและนักเรียนของโรงเรียนในต่างประเทศ
            ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
            เช่น
            ผลิตสื่อบทเรียนร่วมกัน
            โดยทำเป็น มัลติมีเดีย
 ทำโฮมเพจ
            ในสิ่งที่สนใจร่วมกัน
            โดยแบ่งเป็นหลายกลุ่ม
            และนำมาประกวดกัน
 9.
            ประสานงานหรือร่วมกับภาคเอกชน
            เพื่อริเริ่มกิจกรรมหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ
            และอินเทอร์เน็ตมาใช้ในระบบการศึกษาไทย
 10.
            ผลักดันให้โรงเรียนในโครงการที่มีความพร้อมและมีศักยภาพทั้งด้านบุคลากรและด้านงบประมาณพัฒนาตนเองเป็นโหนดอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไทยสาร
            เพื่อจะได้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่บุคลากร
 ในโรงเรียนของตนได้อย่างเต็มที่
            และยังสามารถให้บริการแก่โรงเรียนใกล้เคียงที่ยังไม่ได้เข้าร่วมใน
 โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทยได้ด้วย
 จากที่กล่าวมานั้น
            จะเห็นได้ว่าทั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทยถือเป็นโครงการเริ่มต้นที่เป็นก้าวสำคัญ
            เป็นระบบเครือข่ายที่จะให้ประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพ
 การศึกษาในภาพรวมได้อย่างมากจนแทบจะเรียกว่าหาข้อจำกัดมิได้
  อย่างไรก็ตาม
            การใช้งานอินเทอร์เน็ตในโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
            ได้อาศัย เครือข่ายอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกกันว่าเวิลด์ไวด์เว็บ
            (World Wide Web หรือ WWW) มัก
            นิยมเรียกสั้นๆ ว่าเว็บ
            (Web)
            ซึ่งจะได้กล่าวถึงรายละเอียดในลำดับถัดไป
 |