"สังเขปประวัติ"

หลวงปู่ดุลย์ อตุโล นับเป็นศิษย์อาวุโสรุ่นแรกสุดของหลวงปู่มั่น  ภูริทัตฺโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายอรัญญาวาสี ในยุคปัจจุบัน

พระเถระที่เป็นสหธรรมิก และมีอายุรุ่นเดียวกับหลวงปู่ดูลย์  ได้แก่ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาโมวัดป่าสาลวัน นครราชสีมา และหลวงปู่ขาว  อนาลโย วัดถ้ากลองเพล จ.อุดรธานี

ด้วยความปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบของหลวงปู่ดูลย์ ท่านจึงมีศิษย์สำคัญๆ หลายองค์ ศิษย์รุ่นแรกๆ ก็มีหลวงปู่ฝั้น  อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร หลวงปู่อ่อน ญาณศิริ  วัดป่านิโคธาราม จ.อุดรธานีหลวงปู่สาม อกิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์ และพระเทพสุธาจารย์ (หลวงปู่โชติ  คุณสมฺปนฺโน) วัดวชิราลงกรณ์  อ.ปากช่อง นครราชสีมา

หลวงปู่ดูลย์  อตุโล เป็นพระอริยเจ้าที่มีคุณธรรมล้ำลึก ท่านเน้นการปฏิบัติภาวนามากกว่าการเทศนาสั่งสอน สำหรับพระสงฆ์และญาติโยมที่เข้าไปกราบนมัสการและขอฟังธรรมะ หลวงปู่มักจะให้ธรรมะสั้นๆ แต่มีความล้ำลึกสูงชั้นเสมอ ท่านจะเทศน์เรื่องจิตเพียงอย่างเดียว โดยจะย้ำให้เราพิจารณาจิตในใจอยู่เสมอ

หลวงปู่ดูลย์  อตุโล เกิดปีชวด วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๑ ที่บ้านปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ท่านเกิดในตระกูล "เกษมสินธุ์" เป็นบุตรคนหัวปี ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๔ คน

เมื่ออายุ ๒๒ ปี หลวงปู่ได้อุปสมบทที่วัดจุมพลสุธาวาส อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมีท่านพระครูวิมล ศีลพรต (ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ในพรรษาที่ ๖ หลวงปู่ได้เดินด้วยเท้าไปยังจังหวัดอุบลราชธานี พำนักอยู่ที่วัดสุทัศวนาราม เพื่อเรียนปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี แล้วจึงเรียนบาลีไวยากรณ์ต่อถึงแปลมูลกัจจายน์ได้

หลวงปู่ ได้รู้จักชอบพอกับหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในนามของแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพธรรม ในสายของหลวงปู่มั่น  ภูริทัตฺโต ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทำการเผยแพร่ธรรมะในสายพุทโธ จนแพร่หลายมาตราบเท่าทุกวันนี้

ในปีที่ ๒ ที่หลวงปู่ไปพำนักอยู่ที่อุบลราชธานีนั้น หลวงปู่มั่นได้ธุดงค์มาพำนักอยู่ที่วัดบูรพา ในเมืองอุบลราชธานี หลวงปู่ดูลย์และหลวงปู่สิงห์สองสหายผู้ใคร่ธรรม ได้ไปกราบนมัสการและฟังธรรมของพระอาจารย์ใหญ่ เกิดความอัศจรรย์ใจและศรัทธาเป็นที่ยิ่ง จึงตัดสินใจเลิกละการเรียนด้านปริยัติธรรม แล้วออกธุดงค์ตามหลวงปู่มั่นต่อไป นับเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นในสมัยแรก และได้ร่วมเดินธุดงค์ตามหลวงปู่มั่น ไปในที่ต่างๆ อยู่นานปี

หลวงปู่ดูลย์ เที่ยวธุดงค์หาความวิเวกตามป่าเขานานถึง ๑๙ ปี จึงได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการคณะสงฆ์ให้หลวงปู่เดินทางไปประจำอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดการศึกษาด้านปริยัติธรรม และเผยแพร่ข้อปฏิบัติทางกัมมัฏฐานไปด้วยกัน หลวงปู่จึงได้ไปพำนักอยู่ประจำที่ ที่วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๖ จวบจนบั้นปลายชีวิตของท่าน

นับตั้งแต่บัดนั้นมา แสงแห่งรัศมีของพระธรรม ทั้งทางปริยัติและทางปฏิบัติ ก็เริ่มฉายแสงรุ่งเรืองตลอดมา โดยหลวงปู่รับภาระทั้งฝ่ายคันถธุระ และวิปัสนาธุระ บริหารงานพระศาสนาอย่างเต็มกำลังสามารถ ในปฏิปทาส่วนตัวของท่านนั้นไม่เคยละทิ้งกิจธุดงค์ บำเพ็ญเพียรทางใจอย่างสม่ำเสมอตลอดมา พร้อมทั้งอบรมทางสมาธิภาวนาแก่ผู้สนใจปฏิบัติทั้งคฤหัสน์และบรรพชิต ด้วยเหตุที่หลวงปู่มีเมตตาธรรมสูง จึงช่วยสงเคราะห์บุคคลทั่วไปได้อย่างกว้างขวางโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

หลวงปู่มีสุขภาพอนามัยดีเป็นเยี่ยม แข็งแรง ว่องไว ผิวพรรณผ่องใส มีเมตตาเป็นอารมณ์ สงบเสงี่ยม เยือกเย็น ทำให้ผู้ใกล้ชิดและผู้ได้กราบไหว้ เกิดความเคารพเลื่อมใสศรัทธาอย่างสนิทใจ

หลวงปู่ดูลย์  อตุโล พระอริยเจ้าผู้ประเสริฐ ได้ละเสียซึ่งสังขารเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๖ สิริอายุรวมได้ ๙๖ ปี กับ ๒๖ วัน พระอรหันตธาตุของท่านได้เก็บรักษาไว้ให้สาธุชนได้สักการะที่พิพิธภัณฑ์กัมมัฏฐานในบริเวณวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

ส่วนคำสอนของหลวงปู่ ซึ่งเป็นคำสอนสั้นๆ และเฉียบคมล้ำลึกนั้น ท่านเจ้าคุณพระโพธินันทมุนี ได้รวบรวมและพิมพ์ไว้ในหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้" (ผมจะนำทยอยลงเป็นตอนๆ) นับเป็นหนังสือที่มีคุณค่าแก่นักปฏิบัติธรรม และผู้สนใจทั่วไป

หลวงปู่เน้นเรื่องการปฏิบัติภาวนา ให้พิจารณาจิตในใจจนรู้แจ้ง ท่านเทศนาแต่เพียงสั้นๆ แต่เฉียบคม ท่านสอนว่า

"หลักธรรมที่แท้จริงคือจิต จิตของเราทุกคนนั่นแหละคือหลักธรรมสูงสุด
ที่อยู่ในจิตใจเรา นอกจากนั้นแล้วมันไม่มีหลักธรรมใดๆ เลย
ขอให้เลิกละการคิด...และการอธิบาย เสียให้หมดสิ้น
จิตในใจก็จะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ ซึ่งมีประจำอยู่แล้วในทุกคน.


guestbook.jpg (2547 bytes)
สมุดเยี่ยม (แนะนำ-ติ-ชม) / My Guestbook


ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๒ ปรับปรุงล่าสุด เสาร์ สิงหาคม 06, 2548
จัดทำโดย :นายจักรพงษ์   เจือจันทร์ email : jakrapog@hotmail.com
๖๖๕/๑๑ ถ.สุขาภิบาล ๔ ตำบลระแงง
อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๑๑๐
กระดานดำออนไลน์