| "เจ้าราม"
                  เมื่อพ่อขุนรามคำแหงมีพระชนมายุได้
                  ๑๙ พรรษา
                  ได้เสด็จตามพระบิดาไปรบกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด (อยู่ที่กิ่งแม่ระมาด
                  อำเภอแม่สอนปัจจุบัน)
                  เมื่อพระบิดาเสียทีขุนสามชน
                  พ่อขุนรามได้แก้ไว้
 และชนช้างชนะขุนสามชน
                  พระบิดาจึงถวายพระนามว่า
                  "รามคำแหง"
                  จึงทรงสันนิษฐานว่าเดิมคงชื่อ
 "เจ้าราม"
                  แต่ปรากฏในหลักศิลาจารึกแน่นอนว่า
                  พระนามรามคำแหงนั้น
                  เป็นนามที่ได้รับพระราชทานจาก
 บิดา
                  เมื่อคราวชนช้างชนะขุนสามชน
                  หาใช่พระนามเดิมไม่
 พ่อขุนรามคำแหงเป็น
                  "มหาราช"
                  องค์แรกของชาวไทย
                  ในฐานะที่ทรงเป็นอัจฉริยกษัตริย์
                  ทรงชำนาญทั้งการปกครองและการศาสนา
                  ทรงขยายอาณาจักรสุโขทัยออกไปอย่างกว้างขวางด้วยวิเทโสบายอันแยบคาย
 และทรงปกครองไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขได้รับความยุติธรรมทั่วหน้ากัน
 พระราชกรณียกิจทางด้านนวกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา  ได้แก่
                  การประดิษฐ์อักษรไทย
                  เพราะตัวอักษรเป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายทอดและส่งเสริมวิวัฒนาการความรู้ต่างๆ 
                  หากไม่มีตัวอักษรบันทึกไว้
                  วิทยาการต่างๆ
                  ย่อมสูญหายได้ง่าย
                  นอกจากนี้
                  การจัดการศึกษา ณ
 พระแท่นมนังคศิลา
                  ของพระองค์
                  ยิ่งจัดได้ว่าเป็นการเริ่มต้นของการศึกษาผู้ใหญ่ของไทยอีกด้วย
 จากพระราชกรณียกิจดังกล่าวข้างต้น
                  จึงกล่าวได้ว่า
                  พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
                  ทรงเป็นนักนวกรรมและเทคโนโลยีการศึกษาที่สำคัญของไทยพระองค์หนึ่ง
 ที่มา
                  :
                  เอกสารประกอบการสอนชุดวิชา
                  "เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา"
                  หน่วยที่ ๙-๑๕มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,
                  ๒๕๓๖
 ปรีชา  พงศ์ภมร, "พระราชประวัติ
                  ๔๕ กษัตริย์ไทย และ
                  พระบรมราชินีทุกรัชกาล"
                  , ๒๕๑๖
 |