มาสร้าง VCD เพื่อการศึกษากันเถอะ

 ท่ามกลางกระแสกระต่ายตื่นตูมเรื่อง E-learning ในบ้านเรา ทำให้ผมนึกถึงบทความที่เคยเขียนไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ Web-Besed Instruction กับความเพ้อฝันของการศึกษาไทย ไม่รู้ว่า ณ วันนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ได้ข่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายจะติดอินเทอร์เน็ตให้ครบทุกโรงเรียน ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของการศึกษาไทย

การที่ผมได้มาคลุกคลีอยู่ที่ชนบทอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน และมีโอกาสได้ไปคลุกคลีตีโมงอยู่กับวงการศึกษาและการพัฒนาชนบท ผมฟังธงได้เลยว่า

การจะให้เด็กไทยมีการศึกษาเท่าเทียมกันกับการทำให้คนจนหมดประเทศไทยนี่ยากพอๆ กับที่เราจะได้เห็นคนไทยไปเหยียบดวงจันทร์เลยครับท่าน

เชื่อผมเถอะ

เอาละครับ ถึงแม้ว่า เด็กไทยในชนบทจะมีโอกาสทางการศึกษาน้อยกว่าคนในเมือง หากจะเอาตัวเทคโนโลยีเป็นตัวเปรียบเทียบก็คงจะใช่ หรือ ความสามารถทางวิชาการอาจจะด้อยกว่า ก็อาจจะใช่อีกนั่นแหละ

แต่คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไรนัก เอาพวกผมเป็นตัวเปรียบเทียบนี่แหละ ผมกับบรรดาเพื่อนฝูงก็จบโรงเรียนจากชนบทนี่แหละ หลายๆ คนมีโอกาสไปร่ำเรียนปริญญาเอกยังต่างประเทศ ในประเทศก็มี

หลายต่อหลายคนสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติได้ดีไม่แพ้เด็กๆ ที่ร่ำเรียนในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ๆ

ประเด็นสำคัญที่สุดในวันนี้ คือทำอย่างไรจะให้เด็กๆ ของเราในวันนี้ เติบโตอย่างมีคุณภาพ มีคุณธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม

ไม่ใช่ถูกมอมเมาด้วยอบายมุขที่โอบล้อมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เด็กไทยกำลังถูกล้างสมองด้วยอบายมุข สิ่งที่ชี้ชัดที่สุดคือ เรื่องของหวย หัวเด็ดตีนขาดยังไง ผมก็ยังฟันธงว่า เป็นการล้างสมองของเด็ก เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ของชนชั้นผู้นำ

ประวัติศาสตร์ของโลกมันเคยมีและเคยถูกบันทึกไว้ การจะมาอ้างว่านำเงินมาพัฒนาการศึกษาหรืออะไรก็แล้วแต่ ... นั่นเป็นเพียงประเด็นปลีกย่อย

หากเราย้อนมองถึงตัวตนของความเป็นไทย คนไทยเป็นคนที่ยึดโยงอยู่กับระบบอุปถัมภ์ค้ำจุน
ความมีบุญคุณต้องตอบแทน

แม้ว่า บุญคุณนั้นจะมาจากสีขาวหรือดำก็ตาม

จะเห็นได้จากการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง มักจะมีปัญหาเรื่องการซื้อเสียง ส่วนหนึ่งเพราะคนซื้อรู้นิสัยคนไทยในเรื่องบุญคุณ

แต่นำมาใช้ในทางผิดๆ

เด็กๆ นักเรียนนักศึกษาหลายคนที่ได้บุญคุณจากหวย และในอนาคตเด็กๆ ก็จะเป็นแนวร่วมส่วนหนึ่งของกระบวนการหวยล้างสมองเหล่านี้

ผมเชื่อว่า ประเทศไทยมีรายได้อื่นๆ มากมายที่จะมาสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนคนในชาติ

น่าเสียดายที่บ้านเราเลือกที่จะให้วิธีนี้ และเน้นการประชาสัมพันธ์ถึงเรื่องนี้กันอย่างครึกโครม การอ้างว่าประเทศที่เจริญแล้ว เขาก็มีหวยทั้งนั้นแหละ

เป็นการอ้างแบบกระพี้ ไม่ได้เข้าถึงแก่น

ส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยเริ่มชาชินกับสิ่งเหล่านี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์

...รู้ไหมการขายฉลากได้เงินมาเอาไปทำอะไร ... ครูสาวถาม...
...จะเอาไปส่งเสริมการศึกษา...เด็กชายยกมือตอบ...

บ้านเมืองเราช่างน่ารักกระไรเช่นนี้

เห็นบ่อยๆ เห็นจนชาชิน ตามทฤษฎีของสื่อและจิตวิทยาการศึกษา สิ่งเหล่านี้มันจะซึมซับเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเด็กๆ ที่แยกแยะยังไม่ออก สุดท้ายเขาจะเชื่อว่า หวย เป็นสิ่งที่ดี สมควรสนับสนุน

ต่อไปเมื่อผู้หลักผู้ใหญ่จะเปิดบ่อนหรือคาสิโน เด็กๆ เหล่านี้ จะเป็นแรงเสริมที่สำคัญ อย่าได้มองข้าม

ประวัติศาสตร์เคยมีและจารึกไว้ในเรื่องการล้างสมอง

ผมจั่วหัวไว้ว่า มาสร้าง VCD เพื่อการศึกษากันเถอะ แต่ไหงดันไปเกริ่นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ โดยเฉพาะเรื่องหวย ... เอาเถอะ บางครั้งเห็นแล้ว ก็อเนจอนาถนาจใจ อดไม่ได้ที่จะมากระทุ้งหนักๆ

อย่าได้แปลกใจว่าอยู่ดีๆ ทำไมผมถึงมาพูดถึงเรื่องการทำ VCD ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ผมยังไปเย้วๆ อยู่กับเรื่อง E-learning อยู่เลย

ผมคิดไปเองว่า ผมคงมาสุดทางของ E-learning แล้ว ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว ก็เลยหันมาวิเคราะห์และมองสภาพการณ์ของความเป็นจริงในสังคมบ้านเรา

ถึงแม้รัฐบาลจะติดตั้งอินเทอร์เน็ตให้ครบทุกโรงนั้น ในความเป็นจริงประโยชน์มันจะตกไปอยู่ตรงไหนมากกว่ากัน ผมไม่อยากคิด

ผมมาคิดในเรื่องของสื่อ ตามทฤษฎีของการสื่อสาร

ผู้ส่ง-->สาร-->สื่อ-->ผู้รับ

หากมีแต่ผู้ส่ง สาร และผู้รับ โดยไม่คำนึงถึงตัวสื่อแล้ว การสื่อสารก็ดูเหมือนจะล้มเหลว

หรือมีสาร มีสื่อ มีผู้รับ แต่ผู้ส่งขาดทักษะ การสื่อสารก็คงจะล้มเหลวไม่แตกต่างกัน

ลองวิเคราะห์ถึงสภาพ E-learning ในบ้านเราสิครับ เอาทฤษฎีพื้นฐานง่ายๆ มาจับดูสิว่า มันมีปัญหาตรงไหน ผู้ส่ง สาร สื่อ ผู้รับ หรือมันมีปัญหาทั้งหมด

ผู้ส่ง อาจหมายถึงผู้สอน มีปัญหาอะไรบ้าง ไปไล่เรียงดู

สาร เนื้อหาต่างๆ ที่นำเสนอนั้น เหมาะสมกับการนำเสนอผ่านสื่อนี้หรือไม่

สื่อ โรงเรียนหรือผู้เรียนมีเครื่องไม้เครื่องมือในการแปลสาร รับสื่อหรือไม่

ผู้รับ พร้อมที่จะรับหรือไม่...ไปคิดต่อเอาเองนะครับ

ที่นี้ ผมจะมาสร้างกระแสเรื่องการผลิต VCD เพื่อการศึกษา ให้มันกระหึ่มไปเลย ผมไม่ได้กล่าวลอยๆ หรือจู่ๆ ก็มานั่งหน้าคอมพิวเตอร์แล้วจิ้มๆ เอานะครับ

เท่าที่ผ่านมา ผมสังเกตว่า เทคโนโลยีมันพัฒนาเร็วมาก เร็วจนน่าตกใจ โดยเฉพาะเทคโนโลยีเกี่ยวกับวิทยุโทรทัศน์ และแปลงเป็นแผ่น CD, VCD แม้แต่กระทั่ง DVD

และเทคโนโลยีการผลิต VCD หรือ DVD มันง่ายจนกระทั่งเรามองข้ามไป แต่ผมไม่อยากให้คิดเช่นนั้น

หากเราคิดว่า E-learning หรือที่เราทึกทักเอาว่าเป็นการเรียนผ่านเครือข่าย จะทำให้ผู้เรียนมีความสนใจที่จะเรียนรู้และเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจใคร่รู้ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐก็ลงทุนไปมหาศาล

เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

ผมจะขอมองในภาพของการศึกษาในระดับประถมวัยก็แล้วกันนะครับ ว่าเราจะใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาการศึกษาของเด็กๆ เหล่านี้ได้อย่างไร

ณ วันนี้ ผมคาดว่าประมาณ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของเด็กนักเรียน จะมีเครื่องเล่น VCD และเครื่องรับโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน

ครูก็ราว ๘๐ เปอร์เซ็นต์เช่นกันที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว และทุกโรงเรียนมีเครื่องคอมพิวเตอร์แน่ๆ

.และเมื่อคอมพิวเตอร์สามารถผลิตแผ่น VCD ได้ ไฉนเลยเราถึงมองข้ามเรื่องเช่นนี้ไปได้

การผลิต VCD เพื่อการศึกษา กับการพัฒนา E-learning นั้น สำหรับคนที่ร่ำเรียนมาทางศาสตร์นี้ก็คงพอจะรู้บ้างว่ายากง่ายต่างกันอย่างไร

แต่ในแง่ของสื่อและผู้รับสารแล้ว มีปริมาณมากกว่าและเข้าถึงได้รวดเร็ว

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ผมทราบว่า บางทีเทคโนโลยีที่พูดแล้วโก้ปากอย่าง E-learning ก็อาจทำให้เรามองข้ามสิ่งสำคัญบางเรื่องได้เหมือนกัน

เป็นที่รู้กันว่า สื่อที่มีอิทธิพลยิ่งต่อการรับรู้ของเด็กคือ วีดิทัศน์ ซึ่งปัจจุบันก็คงจะเป็น VCD

แต่ VCD ที่ผลิตมาเพื่อการศึกษานั้นกลับน้อยกว่าหนังลามกยิ่งนัก เรามัวแต่ถกกันว่าจะแก้ปัญหาสื่อลามกได้อย่างไร

แก้ยากครับ ไม่เชื่อไปเดินพันทิพย์ดูก็ได้ ว่า VCD เพื่อการศึกษา กับ VCD  ลามก อย่างไหนหาง่ายกว่ากัน

ผมมาไตร่ตรองดูแล้ว คิดสมควรว่า ผมจะต้องมาจุดประกายเรื่องการผลิต VCD ง่ายๆ เพื่อให้ครูสามารถนำไปใช้การเรียนการสอนได้จริง และเด็กๆ ก็สามารถนำกลับไปศึกษาต่อที่บ้านได้ (เพราะครูบังคับ) ทำให้ลดเวลาในการดูทีวีไปได้ในระดับหนึ่ง

แล้วจะโม้ให้ฟังอีกในคราวหน้าครับ ว่าเราจะทำได้อย่างไร

ด้วยจิตคารวะ

หมายเหตุ จากผู้อ่านท่านหนึ่งเขียนมาในสมุดเยี่ยมหลังจากอ่านบทความในกระดานดำ ผมไม่แน่ใจว่าเรื่อง ศูนย์มัลติมีเดียแห่งชาติ หรือเปล่า แต่ก็เอามาให้ทุกท่านได้อ่าน เผื่อจะได้ช่วยกระจายแนวคิดนี้ออกไป อันจะเกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อวงการศึกษาในบ้านเรา
sukasem Email Email     December 14th 2005 02:46:21 AM
อาชีพ / Occupation
ครู
ท่านอยู่จังหวัด / Province
Korat
ท่านรู้จักเว็บไซต์จาก / How do you know URL?
Google
ความคิดเห็น / Comment :
บทความการสร้างสื่อร่วมกัน ที่โคราช เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ม.เทคโนโลยีสุรนารี ราชภัฏ วงค์เชาวลิตกุล วิทยาลัยพระบรมราชนนี ได้ร่วมกันสร้างวิดีทัศน์เพื่อใช้สอนในรายวิชาที่เกี่ยวกับศิลธรรม จริยธรรมในวัยรุ่น โดยให้นักศึกษาทั้ง 4 สถาบันร่วมแสดง ผลิตมีครูเป็นผู้ทำงานร่วมกันผลออกมาดีมาดครับเด็ก ๆ สนุก เรื่องราวที่ถ่ายทอดเป็นเรื่องจริงของเด็ก ๆ และนำไปใช้ให้แง่คิดในการดำรงชีวิตในสถาบันการศึกษา ผมว่านีคงเป็นสิ่งที่ท่านฝัน มีจริงแล้วครับ สำคัญที่ครูและผู้บริหารที่จะลงไปร่วมด้วยช่วยกันครับ
ขอบคุณ
สุเกษม

 


คำ "ติ-ชม" ของท่านมีค่ามหาศาลต่อการพัฒนาเว็บไซต์ครับ

created by.
กระดานดำออนไลน์
730/4 Tassabarn 7 Rd. Tambol.Ra-ngang
Sikhoraphum District, Surin Province.Thailand 32110

email : jakrapog@hotmail.com 
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2005, 09:00:12 pm »
หน้าที่ถูกเก็บไว้ ใน Google